Bangkok Wild Watch 2016: at Lumpini Park

Date

23 December 2016

Time

7:00 am - 12:00 am

Place

ศาลาพิศพิรุณ (เกาะลอย) สวนลุมพินี เขตปทุมวัน

รายละเอียดกิจกรรม

ถึงเวลาตรวจสุขภาพเมืองประจำปีในงาน Bangkok Wild Watch 2016: at Lumpini Park สำรวจชีวิตป่าเมืองกรุง ตรวจสุขภาพกรุงเทพฯ กับมูลนิธิโลกสีเขียว ร่วมสำรวจสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายในสวนลุมพินี ครั้งนี้แบ่งกลุ่มสำรวจสิ่งมีชีวิตออกเป็น 9 ประเภท ประกอบด้วยกลุ่มสำรวจนก กลุ่มสำรวจพรรณไม้ กลุ่มสำรวจไลเคน กลุ่มสำรวจแพลงก์ตอน กลุ่มสำรวจสัตว์หมวด ก. (กิ้งก่า, กระรอก, กบ) กลุ่มสำรวจปลาเเละสัตว์น้ำ กลุ่มสำรวจสัตว์หน้าดิน (ไส้เดือน, กิ้งกือ, หอย) กลุ่มสำรวจผีเสื้อ เเมง เเมลงอื่นๆ เเละกลุ่มสำรวจเหี้ย

เราอยู่ได้ เมื่อสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ได้เป็นเหตุผลที่เราสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพกันครั้งนี้ เพราะสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสิ่งมีชีวิตหลายเผ่าพันธุ์ ย่อมหมายถึงมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ มีห่วงโซ่อาหาร มีความสมดุลที่เกิดขึ้นในสิ่งเเวดล้อม

ในปีนี้มูลนิธิโลกสีเขียวจึงชวนผู้สนใจร่วมสำรวจชีวิตป่าเมืองกรุง ตรวจสุขภาพกรุงเทพฯ ร่วมกันในวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม 2559 เวลา 7.00 . – 12.00 . ณ ศาลาพิศพิรุณ (เกาะลอย) สวนลุมพินี เขตปทุมวัน

สามารถลงชื่อกลุ่มสำรวจต่างๆ ได้ที่ ด้านล่าง

สรุปผลกิจกรรม

เรื่อง/ภาพ: กองบรรณาธิการมูลนิธิโลกสีเขียว

ถึงวันหยุดทีไรหลายคนจัดกระเป๋าเตรียมออกไปหาธรรมชาติกัน จนบางทีอาจลืมว่ายังมีสิ่งมีชีวิตมากมายซ่อนตัวหายใจอยู่ใกล้ๆ เรา เมื่อชุมชนใหญ่ทั่วประเทศกำลังเปลี่ยนเป็นเมือง การหายไปของสิ่งชีวิตอันหลากหลายใกล้ตัวอาจหมายถึงชีพจรเมืองที่เต้นช้าลง

เมื่อวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา มูลนิธิโลกสีเขียว สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุภาพ (สสส.) เเละองค์กรเครือข่าย กว่า 10 องค์กร ได้เเก่ สวนสาธารณะสวนลุมพินี, องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เเห่งชาติ (อพวช.), สำนักอนุรักษ์เเละวิจัยองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, สำหอพรรณไม้ กรมอุทยานเเห่งชาติสัตว์ป่าเเละพันธุ์พืช, มูลนิธิสวนหลวง .9, หน่วยวิจัยไลเคน ภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยรามคำเเหง, สมาคมอนุรักษ์นกเเละธรรมชาติเเห่งประเทศไทย, กลุ่ม Ecoliteracy & ConservationinAction (ECA) ภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล, กลุ่มอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพเเละสิ่งเเวดล้อม (Siamensis’org), ศูนย์ความเป็นเลิศด้านความหลากหลายทางชีวภาพ เเละชมรมรักษ์ผีเสื้อ พร้อมกับเหล่าอาสาสมัครกว่า 200 ชีวิต ร่วมสำรวจชีวิตป่าในเมืองหลวงเพื่อตรวจสุขภาพกรุงเทพฯ ร่วมกันจัดงาน “Bangkok wild watch 2016 @ Limpini – สำรวจชีวิตป่าในเมืองหลวงซึ่งปีนี้จัดชึ้นเป็นปีที่ 5 แล้ว โดยมีเจ้าภาพคือ มูลนิธิโลกสีเขียว นำโดยแม่งาน ดร.อ้อยสรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ชูธงนำคนเมืองออกมาสำรวจสิ่งมีชีวิตใจกลางกรุงเทพ

การสำรวจครั้งนี้เเบ่งกลุ่มสำรวจออกเป็น 9 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มสำรวจนก กลุ่มสำรวจพรรณไม้ กลุ่มสำรวจเเพลงก์ตอน กลุ่มสำรวจสัตว์น้ำจืด สัตว์เลื้อยคลานเเละสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก กลุ่มสำรวจสัตว์หมวด . (กระรอก กระเเต) กลุ่มสำรวจไลเคน และกลุ่มสำรวจผีเสื้อ แมงเเละเเมลงอื่นๆ เเละมีกลุ่มสำรวจสัตว์หน้าดินเพิ่มเข้ามา โดยผลการสำรวจสิ่งมีชีวิตทั้งหมด 2 ชั่วโมง พบ 155 ชนิด เเบ่งเป็น

กลุ่มสำรวจนก พบนก 27 ชนิด เเบ่งเป็นนกประจำถิ่น 18 ชนิด เเละนกอพยพฤดูหนาว 9 ชนิด นกส่วนใหญ่พบได้ทั่วไป เช่น นกเอี้ยงสาริกา นกเอี้ยงด่าง นกเขใหญ่ นกตีทอง เป็นต้น เเละสามารถจัดเป็นกลุ่มได้โดยเเบ่งตามอาหารที่กิน คือ กินพืช กินเเมลง หากินตามพื้น หากินบนต้นไม้ รวมถึงหากินบนฟ้า  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์และมีอาหารเพียงพอสำหรับเป็นแหล่งอาศัย พักพิงของนกหลากหลายประเภท ทั้งนกท้องถิ่นและนกอพยพ

img_3702

กลุ่มสำรวจพรรณพืช ครั้งนี้สำรวจพันธุ์พืชบนเกาะลอยซึ่งมีต้นไม้ที่มาน่าสนใจกว่าบริเวณอื่น พบพืช 30 ชนิด ส่วนใหญ่เป็นไม้ยืนต้น ไม้พุ่มเเละไม้ผล เเบ่งเป็นพืชท้องถิ่น เช่น โพทะเล สำโรง กร่าง กระท้อน เเก้ว ทำปาเทศ มะกอกน้ำ เป็นต้น เเละพืชต่างถิ่น เช่น มะขาม มะขามเทศ โพธิ์ศรี จามจุรี เป็นต้น ไม้ผลเป็นอาหารให้สัตว์นานาชนิดเเละเป็นที่อาศัยที่อาศัยหลบภัย

img_3627

img_3631

กลุ่มสำรวจสัตว์หมวด . (สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม) พบ 4 ชนิด ได้เเก่ สุนัข เเมว กระรอก  บทบาทของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม กระรอกเป็นสัตว์เมืองที่ปรับตัวได้ดีมาก กินอาหารได้หลากหลาย จึงเจอกระรอกได้ทั่วไป บทบาทก็คือเป็นตัวกระจายเมล็ดพันธุ์ และเป็นผู้ล่าเมล็ดด้วย เช่น หูกวาง มะขาม หางนกยูงฝรั่ง ส่วนสุนัข แมว ก็มีบทบาทในการจำกัดสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น หนู

กลุ่มสำรวจผีเสื้อ เเมลง เเมง พบทั้งหมด 30 ชนิด กลุ่มเเมลงเเละเเมงเป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มใหญ่ที่มีจำนวนมากที่สุดในโลก ดังนั้นจะสามารถพบได้ทั่วไป เช่น ผีเสื้อ เพลี้ย มด ผึ้น ต่อ เเตน เเมลงปอ ด้วง เเมงมุม เป็นต้น การสำรวจครั้งนี้เจอเเมลงในกลุ่มที่ไม่ชอบอยู่ในบริเวณที่ใช้สารเคมีนั่นก็คือ เพลี้ยกระโดดเเละเพลี้ยจั๊กจั่น นอกจากนั้นในบิเวณสวนลุ่มยังพบสัตว์พวกมดเป็นจำนวนมากได้เเก่ มดกระโดดบ้าน มดปุยฝ้ายขาเเดง มดเเดง มดก้นหัวใจ มดตะนอยอกส้ม มดหนามคู่สีเทา มดรำคาญขายาว เป็นกลุ่มของผู้ย่อยสลายเป็นลำดับต้นๆ ที่ช่วยย่อยซากสิ่งมีชีวิตที่เน่าเปื่อยให้มีขนาดเล็กลง 

img_3698

กลุ่มสำรวจไลเคน จากการสำรวจบริเวณใจกลางสวนลุมพบไลเคน 11 ชนิด เเบ่งเป็นไลเคน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มทนทานมลพิษสูง พบ 5 ชนิด ได้เเก่ ไฝพระอินทร์ ใบมอมเเมม ร้อยรู หัตถ์ทศกัณฐ์กุมน้ำเเข็ง เเละสิวหัวช้าง ส่วนอีกคือ กลุ่มทนทานมลพิษ พบ 6 ชนิด ได้เเก่ ริ้วเเพร ลายเส้น ร้อยเหรียญ ธิดามะกอกดำ หลังตุ๊กเเก เเละไหทองโรยขมิ้น ผลปรากฏว่าบริเวณเเยกราชดำริถนนสารสิน เเละ ..ลุมพินี  – ถนนวิทยุ เเละบริเวณด้านถนนพระราม 4 พบไลเคนกลุ่มทนทานมลพิษปานกลางมากกว่ากลุ่มทนทานมลพิษสูง เเละบริเวณด้านลานพระบรมรูป .6 พบไลเคนกลุ่มทนทานมลพิษสูงมากกว่ากลุ่มทนทานมลพิษปานกลางเเสดงให้เห็นว่าคุณภาพอากาศบริเวณดังกล่าวอยู่ในระดับเเย่ถึงเเย่มากเนื่องจากอยู่ใกล้กับถนนใหญ่ ส่วนบริเวณพื้นที่กลางสวนลุมพบไลเคนกลุ่มทนทานมลพิษปานกลางมากกว่าไลเคนกลุ่มทนทานมลพิษสูงคุณภาพอากาศจึงอยู่ในระดับพอใช้หาเปรียบเทียบกับผลการสำรวจไลเคนในสวนลุมเมื่อปี 2558 ผลอยู่ในเกณฑ์ที่เเย่ลง

img_3703

map-of-bottle-palms-in-lumpini-park-update2016

การจัดการพื้นที่ เช่น การสร้างเต้นท์ถาวรใกล้กับต้นไม้ที่มีไลเคนอยู่ทำให้เเสงไม่สามารถส่องมาถึงไลเคนเพื่อให้สร้างอาหารได้จึงทำให้ไลเคนบางบริเวณที่มีเต้นท์ตาย นอกจากนั้นการสร้างหรือปรับเปลียนทัศนีย์ภาพของสวนฯ ก็อาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของไลเคนได้ อย่างการนำเครื่องจักรมาช่วยในการขุดดินหรือขนส่งต้นไม้ควันพิษหรือสารเคมีต่างๆ ที่เกิดจากเครื่องจักร เช่น น้ำมันเครื่อง ก็อาจมีผลด้วยเช่นเดียวกัน

กลุ่มสำรวจสัตว์น้ำ พบสัตว์น้ำ 19 ชนิด พบความหลากหลายค่อนข้างมาก โดยสำรวจพบชนิดพันธุ์ต่างถิ่นเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปลากินยุง ปลาคาร์ฟ ปลาซัคเกอร์ ปลาดุกยักษ์ ปลาหมอฟลามิงโก้ เป็นต้น จากการสำรวจพบปลาขนาดเล็กอย่างพวกปลาบู่ใส ปลาเข็ม ซึ่งอยู่ในเเหล่งน้ำคุณภาพปานกลาง เเละพบปลากินยุง ที่อยู่รวมเป็นฝูงกินลูกน้ำยุงเป็นอาหารอยู่ในน้ำเสีย จึงพอสรุปได้ว่าคุณภาพน้ำอยู่ในระดับปานกลางถึงค่อนข้างเเย่

img_3693

กลุ่มสำรวจเเพลงก์ตอน พบทั้งหมด 16 ชนิด เเบ่งเป็นเเพลงก์ตอนพืช 7 ชนิด เเละเเพลงก์ตอนสัตว์ 9 ชนิด เเพลงก์ตอนพืชบางชนิดพบว่ามีจำนวนมากซึ่งชี้ให้เห็นว่าน้ำในบ่อน้ำในสวนลุมมีสารอาหารมาเกินไป เช่น Phacus sp. นอกจากนั้นพบ Ceratium sp. มีจำนวนมากเป็นพิเศษ ทำน้ำบริเวณที่พบเเพลงก์ดังกล่าวมีความเป็นพิษสูงเเละอาจทำให้สัตว์น้ำบางชนิด เช่น ปลา อยู่ไม่ได้ ส่วนเเพลงก์ตอนสัตว์ที่พบในปริมาณมาก ได้เเก่ Keratella sp. จึงอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงพบเเพลงก์ตอนพืชจำนวนน้อย ดังนั้นจึงพอสรุปได้คร่าวๆ ถึงคุณภาพของน้ำในบ่อน้ำปานกลางจนถึงเเย่

img_3692

กลุ่มสำรวจสัตว์เลื้อยคลาน พบ 7 ชนิด ได้เเก่ เหี้ย จิ้งจกดิน เต่านา เต่าบัว ตุ๊กเเก งูเขียวพระอินทร์ เเละพบชนิดพันธุ์ต่าวถิ่น คือ เต่าเเก้มเเดง  ในปีนี้มีการสำรวจจำนวนเหี้ยเป็นพิเศษพบทั้งหมด 21 ตัว สามารถเเบ่งได้ 2 ช่วง คือ ตัวเต็มวัย 11 ตัว เเละวัยเด็ก 11 ตัว เหี้ยช่วยกำจัดของเน่าเสียอย่างพวกปลาและสัตว์อื่นที่ตายในบริเวณสวนสาธารณะ นอกจากนั้นยังเป็นการป้องกันการระบาดของโรคที่มาจากสัตว์ที่ตายอีกด้วย

กลุ่มสำรวจสัตว์หน้าดิน พบสัตว์หน้าดินพวกหอย ไส้เดือน ตะขาบเเละกิ้งกือ 12 ชนิด เช่น หอยข้าวสาร ไส้เดือนเเดงเล็ก ตะขาบตาบอด กิ้งกือกระบอกเล็ก เป็นต้น การสำรวจนี้พบชนิดพันธุ์ต่างถิ่น คือ หอยทากยักษ์แอฟริกันเเละไส้เดือนบราซิล การพบสัตว์หน้าดินเหล่านี้เป็นการบอกสุขภาพของดินที่อยู่ในบริเวณนั้นด้วย เนื่องพวกมันช่วยย่อยสลายซากพืชเเละสัตว์ให้เปื่อยจนเป็นอาหารให้กับต้นไม้ทั้งยังทำให้ดินมีความร่วนเหมาะสมกันการเจริญเติบโตของต้นพืช

การสำรวจครั้งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก นอกจากจะทำให้เราได้รู้ว่าสิ่งมีชีวิตอะไรอาศัยอยู่รอบๆ ตัวเราบ้างเเล้ว ยังเป็นการตรวจสุขภาพของป่าที่อยู่ในเมืองอย่างสวนสาธารณะที่เป็นเเหล่งอาศัยเเละหากินของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด ถ้าความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตมากก็อาจหมายถึงว่าสิ่งเเวดล้อมรอบๆ ดี ถ้าสิ่งมีชีวิตต่างๆ อยู่ได้ ชีวิตเราก็อยู่ได้เช่นกัน