แบ่งๆ กันกิน
สามสี่เดือนที่ผ่านมา มีแมววัยหนุ่มแวะเข้ามานั่งเล่นในบ้านหลายครั้งหลายครา สองหนุ่มน้อยที่บ้านจึงเริ่มหาอาหารในครัวมาให้กินตามธรรมเนียมของเจ้าบ้านที่ดี แต่ที่บ้านไม่ค่อยมีอาหารเหลือถึงแมว เพราะผู้เขียนชอบที่จะทำคราวละสองสามอย่างพอทานกันในมื้อนั้นๆ ท้ายที่สุดเด็กๆ ก็เลยมาขอให้แม่ซื้ออาหารแมวมาให้ ซึ่งได้ถูกตั้งชื่ออันแปลได้ตรงตัวว่า “พี่ตระหนก” เพราะพอมีเสียงอะไรนิดอะไรหน่อย แมวหนุ่มตัวนี้ก็มีอาการสะดุ้งหลบทุกครั้ง รวมทั้งยังเป็นแมวที่กล้าๆ กลัวๆ ขนาดที่ว่าชามใส่อาหารที่วางไว้ตรงที่หน้าประตูแต่ถ้าหากไม่มีใครเดินนำทางมาที่จาน พี่ตระหนกก็จะไม่ออกมากิน หลังจากมีอาหารเลี้ยงแมววางอยู่หน้าบ้าน ก็พอจะเข้าใจแล้วว่า “หัวบันไดบ้านไม่แห้ง” เป็นยังไง อยู่ๆ ก็มีทั้งแขกไม่ได้เชิญหลายชนิดแวะเข้ามาจิกกินอาหารแมวจากชาม ทั้งนกเอี้ยงสาริกา นกกางเขน รวมไปถึงเจ้ากระแตจมูกยาว ที่วิ่งหลบไปหลบมาลองเชิงอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็กล้ามานั่งกินให้เห็นต่อหน้า พ่อบ้านเล่าให้ฟังว่า วันไหนที่ชามว่างเปล่า เจ้ากระแตจะมาส่งเสียงดังที่ลูกกรงประตูเป็นพักๆ ราวๆ กับว่ามาสั่งออเดอร์ให้ต้องเอาอาหารแมวมาเติมให้ ผู้เขียนและครอบครัวไม่แน่ใจว่าทำถูกหรือเปล่าที่ปล่อยให้อาหารแมวกลายเป็นอาหารนก (โชคดีที่นกยังไม่กลายเป็นอาหารแมว แม้ว่าพี่ตระหนกจะดักซุ่มอยู่บ้าง) แต่มองไปรอบๆ แล้ว ในบรรดาบ้านเกือบ 30 หลังคาในซอยนี้ บ้านของผู้เขียนเป็นบ้านที่มีต้นไม้ที่หน้าบ้านมากกว่าบ้านอื่นๆ ที่ส่วนมากจะเปลี่ยนสนามหญ้าบริเวณอันน้อยนิดให้เป็นที่จอดรถ ดังนั้น ต้นมะม่วง ต้นไผ่ และรั้วต้นเข็มจึงกลายเป็นที่พักพิงของสัตว์ในเมืองก๊วนนี้ ชามอาหารแมวจึงกลายเป็นของสาธารณะไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ นั่งดูเพื่อนต่างสายพันธุ์ที่วนเวียนกันมากินอาหารจากชามเดียวกันแบบนี้นี่มันน่ารักจริงๆ เพราะว่าต่างก็มากินเพื่อความอยู่รอดแบ่งๆ กันไปทั้งสี่เท้าสองเท้า บางครั้งตอนเดินออกจากบ้านเห็นอาหารตกหล่นอยู่บนพื้น 2-3 ชิ้น พอกลับมาอีกทีก็หายไปจากพื้นแล้ว เป็นอันว่าตัวใดตัวหนึ่งในก๊วนนั้นทำหน้าที่เก็บกินทำความสะอาดให้เรียบร้อย เมื่อปลายปีที่ผ่านมา […]