in on December 6, 2019

คนรุ่นใหม่จะเปลี่ยนโลก

read |

Views

ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมามีสัญญาณบวกที่บ่งบอกว่าโลกในกำมือของเด็กรุ่นใหม่จะใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและใช้ทรัพยากรลดน้อยลง ด้วยเหตุผลที่หลากหลาย บ้างอยากฟื้นฟูและปกป้องโลกเพื่อคนรุ่นตัวเองและรุ่นลูกรุ่นหลานที่ยังต้องมีชีวิตต่อไปอีกยาวนาน บ้างอยากหวนคืนสู่ความทรงจำวัยเด็ก บ้างเพื่อสร้างการรับรู้และยอมรับในโซเชียลมีเดีย


ภาพจาก: https://mgronline.com/

เหตุการณ์แรกคือข่าวการฟื้นคืนชีพของอาชีพคนส่งนมในอังกฤษ บริษัทส่งนมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษเปิดเผยว่าหนุ่มสาวเจนวายและมิลเลเนียลอายุประมาณ 20-40 ปี (เกิดปีค.ศ. 1980-2000) หันมาสั่งนมจากขวดแก้วมากขึ้นเพราะต้องการลดการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยเมื่อปีที่แล้วยอดสั่งนมจากขวดแก้วเติบโตขึ้นถึง 25 % จากปริมาณการสั่งนมทั้งหมด 5 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งบริษัทส่งนมบอกว่าเหมือนเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติเลยทีเดียว

นอกเหนือจากเหตุผลเรื่องสิ่งแวดล้อม คนกลุ่มนี้หันกลับมาสั่งนมจากขวดแก้วแม้ต้องจ่ายแพงกว่าเพราะการโหยหาอดีต  พวกเขาเติบโตมาในยุคที่เด็กส่งนมยังมีบทบาทสำคัญก่อนที่นมบรรจุในขวดพลาสติที่วางขายในซูเปอร์มาเก็ตจะเข้ามาแทนที่ ที่สำคัญการใช้บริการสั่งนมจากขวดแก้วยังเป็นกิจกรรมเก๋ไก๋ที่คนเจนวายมาสามารถโฟสต์บอกเพื่อน ๆ ในโซเชียลมีเดียได้อีกด้วย ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ล้วนดีต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น


ภาพจาก: https://www.countrylife.co.uk/food-drink

อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในบ้านเราคือกรณีที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 มีมติยกเลิกการใช้สารเคมีเกษตร 3 ชนิด คือพาราควอต ครอร์ไฟริฟอส และไกลโฟเซต และยกระดับจากวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งมีความเป็นอันตรายหรือความเสี่ยงสูงทั้งคุณสมบัติของตัวสารหรือลักษณะการใช้ กฎหมายจึงห้ามไม่ให้ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ครอบครอง มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ธันวาคมนี้

ถือเป็นเรื่องเกินความคาดหมายและเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้านการเกษตรที่สวยงาม  แม้ว่าจะต้องไปต่อสู่กันต่อในเชิงกฎหมายและการเมืองระหว่างประเทศ เนื่องจากในวันเดียวกันที่คณะกรรมการฯ มีมติ มีกลุ่มคนรวมตัวกันฟ้องศาลปกครองเพื่อถอดถอนมติดังกล่าว และสถานทูตสหรัฐอเมริกาได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอเมริกาเห็นว่าการห้ามใช้ไกลโฟเซตจะกระทบต้นทุนของเกษตรกรในประเทศไทย เพราะไกลโฟเซตเป็นย่าฆ่าหญ้าที่ใช้แพร่หลายทั่วโลก

อีกเรื่องที่ใกล้เข้ามาทุกขณะคือนโยบายการงดการแจกถุงพลาสติกในห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ 43 แห่ง ซึ่งจะมีผลในวันที่ 1 มกราคม 2563 เมื่อเร็วๆ นี้ผู้เขียนไปซื้อของในซูเปอร์มาร์เกตขนาดใหญ่โดยไม่รับถุง พนักงานที่จุดคิดเงินบอกว่าทางห้างจะเริ่มทดลองไม่แจกถุงตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เพื่อให้ลูกค้าคุ้นเคยและเตรียมตัวรับมือกับการประกาศใช้นโยบายที่จะมาถึง ซึ่งต้องรอผลเชิงปฏิบัติต่อไป

ผู้เขียนเชื่อว่าเมื่อห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ร่วมมือกันงดแจกถุงพลาสติกอย่างจริงจังต่อเนื่องย่อมส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคทั้งประเทศ และนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายของโครงการนี้ที่จะลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งให้ได้ภายในหนึ่งปี ดังที่เกิดขึ้นแล้วที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อห้างวูลเวิร์ธและห้างโคลส์ ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่อันดับต้นๆ ที่ใช้ถุงพลาสติกรายละประมาณ 3,200 ล้านชิ้นต่อปี หยุดแจกถุงพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งทุกสาขาต่างๆ ทั่วประเทศ สมาคมผู้ค้าปลีกแห่งชาติของประเทศออสเตรเลียรายงานว่าเพียง 3 เดือน การใช้ถุงพลาสติกทั่วประเทศลดลงถึง 80 % เพราะการที่ห้างใหญ่เป็นฝ่ายเริ่มต้นถือเป็นการเปิดประตูให้ร้านค้ารายเล็กเริ่มต้นนโยบายเดียวกันโดยไม่ต้องกลัวเสียลูกค้า

สุดท้ายนี้ผู้เขียนหวนนึกถึงกิจกรรมการเดินขบวนประท้วงเรื่องสภาพภูมิอากาศหรือ Climate Strike ของกลุ่มเยาวชนทั่วโลกเพิ่งจบลง โดยมีคนเข้าร่วมมากกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก เฉพาะประเทศไทยมีการจัดกิจกรรมหลายแห่งและมีคนเข้าร่วมนับพันคน ข่าวใหญ่ปิดท้ายกิจกรรมนี้คือกรณีเกรต้า ธันเบิร์ก เยาวชนผู้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดปรากฎการณ์ระดับโลกนี้ขึ้นกล่าวในเวทีประชุมองค์กรสหประชาชาติ เรียกร้องให้พวกผู้ใหญ่ลงมือปกป้องโลกด้วยท่าทีที่จริงจัง จนพวกผู้ใหญ่จำนวนหนึ่งเห็นว่าก้าวร้าวเกินเด็ก

จากสัญญาณแห่งความหวังข้างต้น ไม่ หวังว่าการลงทุนลงแรงของเยาวชนและคนรักโลกทุกเพศทุกวัยเพื่อกอบกู้และเปลี่ยนแปลงโลกจะไม่สูญเปล่า

ภัสน์วจี ศรีสุวรรณ์

คุยประเด็นสิ่งแวดล้อมกับอดีตนักข่าว นักเขียน บรรณาธิการนิตยสารสิ่งแวดล้อม และนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันเป็นนักเขียนอิสระที่สนใจประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และการศึกษา ขณะเดียวกันก็รักการเดินทางและการออกกำลังกาย นิยมการเดินป่า เล่นโยคะ ปั่นจักรยาน และทำสวน ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง

Email

Share