in on June 26, 2017

เมื่อช.ช้างไม่วิ่งหนี

read |

Views

ก่อนสิ้นเดือนมิถุนายน ข่าวการตายของลูกช้างที่ถูกรถชนตอนเช้ามืดบนทางหลวงสาย Gerik-Jeli ห่างจากเมืองอิโปห์ไปราวๆ 130 กิโลเมตร ถือเป็นข่าวแสนเศร้า โดยเฉพาะต่อกลุ่มคนที่ทำงานด้านการอนุรักษ์ช้าง ที่พยายามติดตามและทำความเข้าใจกับการเคลื่อนที่ของกลุ่มช้างป่าในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะผืนป่าเบอลุม (Royal Belum National Park) ทางตอนเหนือของรัฐเปรัค ซึ่งเป็นผืนป่าที่มีรอยเชื่อมต่อกับเทือกเขาสันกาลาคีรี และอุทยานแห่งชาติบางลางในจังหวัดยะลาของประเทศไทย

สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่อาจจะโทษคนขับรถที่วิ่งเข้าชนลูกช้างอย่างเดียว แต่เบื้องลึกเบื้องหลังที่เป็นสาเหตุจริงๆ มีองค์ประกอบมากกว่านั้น  ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา มีสัตว์ป่าไม่น้อยกว่า 2 พันตัว ที่ถูกฆ่าโดยยานพาหนะบนถนน มีทั้ง สมเสร็จ ลิง แมวดาว อีเห็น หมูป่า และที่เป็นข่าวสุดเศร้าเมื่อปีที่แล้ว ก็คือข่าวที่แม่เสือที่กำลังตั้งท้องลูกสองตัว ถูกรถชนตายข้างป่าสงวนราเซา (Rasau Forest Reserve) ในรัฐตรังกานู

เหตุที่มีสัตว์ป่าจำนวนมากตายด้วยอุบัติเหตุจากรถชน ก็เนื่องมาจากการขยายเส้นทางคมนาคมในประเทศมาเลเซียที่มีเส้นทางหลักๆ มากกว่า 60 สายที่เป็นทางหลวง ส่วนพื้นที่ที่ถือว่าเป็น hotspots ก็คือทางหลวงหลัก 5 สาย (เส้นสีฟ้าๆ) ที่วิ่งข้ามผืนป่าต่างๆ ภายใต้วงกลมสีแดงนั่น ถ้านำแผนที่แสดงผืนป่าของมาเลเซียมาเทียบ จะเห็นว่าถนนเหล่านั้นตัดผ่านผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นเมื่อแหล่งอาศัยและหากินถูกตัดขาดออกจากกัน จึงเป็นเรื่องปกติที่สัตว์ป่าจะหาทางข้ามกลับไปยังถิ่นหากินเดิมๆ ทางหลวงเหล่านั้นจึงกลายเป็นสุสานของสัตว์ป่าไปโดยปริยาย

แม้ว่าจะมีการพูดถึง “ทางข้ามของสัตว์ป่า” หรือ Wildlife Crossings ในรูปแบบต่างๆ กัน ทั้งทางลอด สะพานลอย อุโมงค์ แต่ในมาเลเซีย ยังคงขาดแคลนทางข้ามเหล่านี้ และเรื่องที่ต้องมีการคิดต่อ เมื่อการสร้างทางข้ามเกิดขึ้น คือ การป้องกันระวังไม่ให้นักล่าใช้ทางข้ามของสัตว์ป่าเป็นแหล่งดักสัตว์ คล้ายๆ ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์หนีเสือปะจระเข้ แต่ในเมื่อเกิดขึ้นกับสัตว์ป่า คงต้องเปลี่ยนสุภาษิตนี้เป็น “หนีรถปะปืน”

ทางหน่วยงานด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่าได้ระบุว่ามีการติดตั้งป้ายสัญลักษณ์ “ทางข้ามของสัตว์ป่า” ตรงไหล่ทางหลวงทั้งหมด 236 ป้าย ในตำแหน่งที่ถือว่าเป็น hotspots ทั้ง 133 แห่ง แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะลดจำนวนสัตว์ป่าที่ถูกฆ่าบนถนนได้ เพราะการถางป่าเพื่อเปิดเส้นทางคมนาคมก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ ทำให้ถิ่นอาศัยของสัตว์อยู่ใกล้กับถนนมากเกินไป หรือบ้านเรือนของคนกระเถิบเข้ามาใกล้กับถิ่นอาศัยของสัตว์ป่ามากเกินไป อันเป็นเหตุให้เกิดการปะทะกันระหว่างคนและสัตว์ป่าตามมา

ความรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุรถชนสัตว์ป่า จึงไม่ได้ตกอยู่แค่ที่คนขับรถ ที่ควรจะขับด้วยความระมัดระวังเมื่อแล่นผ่านพื้นที่ป่าต่างๆ เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงเจ้าของโครงการสร้างถนนและทางหลวง ที่ต้องออกแบบให้มีทางข้ามสัตว์ป่ากระจายตามจุดสำคัญต่างๆ มากพอ และเรื่อยไปถึงผู้อนุมัติโครงการก่อสร้างและพัฒนาเมืองและทางหลวง ที่ควรจะมีการศึกษาและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ เพื่อระบุพื้นที่ที่ควรหลีกเลี่ยง ด้วยอาจจะเป็นแหล่งอาศัยสุดท้ายของสัตว์ป่าสงวนและ/หรือใกล้สูญพันธุ์ ก่อนจะอนุมัติโครงการก่อสร้างเหล่านั้น

ก่อนจะสายเกินไปด้วย ช.ช้าง อาจไม่มีที่ให้วิ่งหนีอีกต่อไป

อ้างอิง
  1. ภาพป้ายสัตว์จาก: https://4.bp.blogspot.com/-e0uTpckPbkA/V2wpAuFIfwI/AAAAAAAAN-g/vSJjNLazT9EwAaDxjvqmp9x_-Mz22RF7ACLcB/s1600/2016_06_03-9.jpg
  2. ภาพป้ายสัตว์จาก: http://www.mysabah.com/images/2015/20150706_7.jpg
  3. ภาพใต้ถนนจาก: http://www.thestar.com.my/news/environment/2014/09/22/ecoviaducts-are-built-to-facilitate-movements-of-wildlife-but-do-they-work/~/media/61B0308B1E604562B12F08C16DAE4325.ashx
ก้อนทอง ลุร์ดซามี

สิบปีกว่าที่ย้ายไปตั้งรกรากที่มาเลเซีย เปิดโอกาสให้ก้อนทอง ลุร์ดซามี ได้นำข้อสังเกตเกี่ยวกับชีวิตคนเมืองทางโน้นมาเขียนเล่าในคอลัมน์ "นิเวศในเมือง" มีหลายครั้งที่เล่าเรื่องออกนอกเมืองบ้าง เพราะเธอรู้สึกว่าตัวเดินเรื่องและผู้มีส่วนร่วมสร้างปัญหาเหล่านั้น ก็มักจะไม่พ้นคนเมืองทั้งหลาย จึงนำเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองหลวง เมืองใหญ่ และบริบทรอบๆ เมือง มาเล่าแลกเปลี่ยนมุมมอง พื้นฐานความคิดในการเขียนบทความต่างๆ มาจากประสบการณ์ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาในเมืองไทยกับตาวิเศษตั้งแต่เมื่อยี่สิบปีก่อน ปัจจุบัน ก้อนทองเป็น Country Director ให้กับ Wild Asia ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจเพื่อสังคมในมาเลเซีย ทำงานกับภาคธุรกิจเพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหาทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม และหาวิธีการให้เกิดการจัดการที่เหมาะสมในการแก้ไข เช่น ช่วยเกษตรกรรายย่อยและผู้ประกอบการระดับต่างๆ มีระบบการจัดการและการทำงานเป็นไปตามมาตรฐานการปลูกปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน ด้วยความถนัดในการสลายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย บทความของก้อนทองจึงเหมือนกับเป็นเรื่องเล่าให้เพื่อนฟัง

Email

Share