in Wild Watch on December 21, 2014

ตรวจสุขภาพเมือง กับ Bangkok Wild Watch @ Lumpini 2014

read |

Views

ถึงเวลาตรวจสุขภาพเมืองประจำปีแล้ว สำหรับ Bangkok Wild Watch @ Lumpini2014 ปีนี้มูลนิธิโลกสีเขียว ได้รับความร่วมมือจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย  หน่วยวิจัยไลเคน มหาวิทยาลัยรามคำแหงกลุ่ม Ecoliteracy& Conservation in Action (ECA) ภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล และ กลุ่ม Siamensisและอาสาสมัครชาวเมือง ร่วมแรงร่วมใจเป็นอย่างดี

“เราอยู่ได้ เมื่อสิ่งมีชีวิตอื่นอยู่ได้” เป็นเหตุผลที่เราสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพกันทุกปี เพราะสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสิ่งมีชีวิตหลายเผ่าพันธุ์ ย่อมหมายถึงมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ มีห่วงโซ่อาหาร มีความสมดุล

ในการสำรวจครั้งนี้ แบ่งกลุ่มสำรวจสิ่งมีชีวิตออกเป็น 8ประเภท ประกอบด้วยกลุ่มสำรวจนก กลุ่มสำรวจพรรณไม้ กลุ่มสำรวจไลเคน กลุ่มสำรวจสัตว์น้ำจืดกลุ่มสำรวจแพลงก์ตอนกลุ่มสำรวจสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม กลุ่มสำรวจสัตว์เลื้อยคลานและกลุ่มสำรวจสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก โดยผลการสำรวจพบสิ่งมีชีวิตทั้งหมด 116ชนิด แบ่งเป็น

กลุ่มสำรวจนก พบ 31ชนิด เป็นนกประจำถิ่น 22 ชนิดนกอพยพ 9 ชนิด ส่วนใหญ่เป็นนกที่พบได้ทั่วไป เช่น นกกระเต็นหัวดำนกกระเต็นน้อยธรรมดานกจับแมลงคอแดง

ที่น่าสนใจคือ พบนกเขาเปล้าธรรมดา ซึ่งปกติทำรังในป่า แต่มีบางช่วงที่อพยพตามแหล่งอาหาร เป็นนกที่บินได้ไกลมาก คาดว่าเป็นรายงานการพบครั้งแรกของสวนลุมพินี ซึ่งบ่งชี้ว่าในสวนมีพืชอาหารของนกชนิดนี้เพียงพอ นอกจากนี้ยังพบนกที่หายากในเขตเมือง คือ นกยางกรอกพันธุ์ชวา นกแซงแซวสีเทา

จากการสำรวจพบว่า มีนกหลากหลายกลุ่ม ทั้งที่กินพืช กินแมลง หากินตามพื้น หรือหากินบนต้นไม้ รวมถึงหากินอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สวนสาธารณะเป็นที่แหล่งอาหารที่สำคัญของนก

กลุ่มสำรวจพรรณไม้ พบ 31 ชนิด เป็นพืชต่างถิ่น 11 ชนิด และเป็นพืชพื้นเมือง 20 ชนิด
ในจำนวนนี้เป็นพืชถิ่นเดิมของกรุงเทพมหานคร 14 ชนิด สำหรับวงศ์ต่างๆ ของพืชที่พบ คือ วงศ์ถั่ว ไทร ปอ แค เฟิร์น โมก มะยม ตะแบก

การสำรวจพบต้นไม้วงศ์ไทรและวงศ์ปอเยอะ เพราะไทรเป็นอาหารของนก เมื่อนกบินไปไหนแล้วถ่ายมูลไว้ ก็จะสามารถเติบโตได้ และวงศ์ปอเป็นไม้ที่ขึ้นได้ง่ายและเจริญเติบโตได้ดีในที่น้ำเข้าถึง เช่น ริมน้ำ นอกจากนี้ยังพบร่องรอยของพรรณไม้ที่มีมาแต่ดั้งเดิม คือ ตะแบกนา สะตือ มะกา

กลุ่มสำรวจไลเคน พบไลเคน 10ชนิด เป็นไลเคนชนิดที่ทนทานมลพิษและทนทานมลพิษสูง โดยบริเวณรอบนอกของสวนลุมใกล้ถนนใหญ่ ทั้งถนนวิทยุพระราม4 และสารสิน พบไลเคนกลุ่มทนทานมลพิษสูงมากกว่ากลุ่มทนทานมลพิษคุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “แย่ถึงแย่มาก” เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจไลเคน ปี 2555และ 2556คุณภาพอากาศในสวนลุมมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ

กลุ่มสำรวจสัตว์น้ำจืด พบ15ชนิด พบปลากินยุงน้อยกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่พบปลาซอคเกอร์ซึ่งเป็นสายพันธุ์ต่างถิ่นเพิ่มขึ้นมาก การสำรวจปีนี้พบปลาผิวน้ำน้อยลง แสดงถึงปริมาณอ็อกซิเจนในน้ำที่ลดลง

กลุ่มสำรวจแพลงก์ตอ พบแพลงก์ตอนทั้งหมด 15ชนิด เป็นแพลงก์ตอนพืช 5 ชนิด และแพลงก์ตอนสัตว์ 10 ชนิด
ปีนี้พบน้อยเนื่องจากแสงไม่มาก สำหรับการบ่งชี้คุณภาพน้ำ ไม่พบแพลงก์ตอนน้ำดี แพลงก์ตอนน้ำปานกลาง 1 ชนิด แพลงก์ตอนน้ำแย่ 3 ชนิด และแพลงก์ตอนไม่บ่งชี้ 1 ชนิดสิ่งที่เป็นห่วงคือเมื่อน้ำเริ่มเน่าจะส่งผลถึงสัตว์น้ำจืดอื่นๆ ในสระ

กลุ่มสำรวจสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมพบ 5ชนิด คือ คน สุนัข แมวบ้านกระรอกหลากสีและกระรอกท้องแดง

บทบาทของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม กระรอกเป็นสัตว์เมืองที่ปรับตัวได้ดีมาก กินอาหารได้หลากหลาย จึงเจอกระรอกได้ทั่ว บทบาทก็คือเป็นตัวกระจายเมล็ดพันธุ์ และเป็นผู้ล่าเมล็ดด้วย เช่น หูกวาง มะขาม หางนกยูงฝรั่ง ส่วนสุนัข แมว ก็มีบทบาทในการจำกัดสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น หนู

กลุ่มสำรวจสัตว์เลื้อยคลาน พบ 8 ชนิด เช่น กิ้งก่าสวน เต่านา เต่าหับ พบงูเขียวพระอินทร์

กลุ่มสำรวจสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก พบเพียง 1 ชนิด คือคางคก อาจเป็นเพราะช่วงเวลาที่สำรวจเป็นกลางวัน ซึ่งไม่ใช่เวลาหากินของสัตว์ชนิดนี้

Green world Foundation

ข่าว และ บทความจากทีมงานมูลนิธิโลกสีเขียว เพื่อความเข้าใจในสิ่งแวดล้อมไทย

Email

Share