กลัวฝังใจ แต่ต้องเข้าใจ
เมื่อตอนเด็กๆ ผู้เขียนคิดว่าตุ๊กแกเป็นสัตว์ที่ทั้งน่ากลัวและน่าเกลียด ความน่ากลัวบ่มเพาะมาจากตอนเด็กๆ ที่เชื่อว่าถ้าไม่นอนตอนกลางวันแล้วตุ๊กแกจะออกมากินตับ ซึ่งถ้าจริงอย่างที่ขู่ ก็น่าจะโดนกินตับตั้งแต่ตอนนอนนิ่งๆ นั่นมากกว่า บวกกับความหลอกหลอนของละครไทยที่เกี่ยวข้องกับผีๆ เรื่องไหนเรื่องนั้น ถ้ามีฉากตุ๊กแกเกาะกำแพงหรือส่งเสียง เป็นอันรู้กันว่าเดี๋ยวผีจะมา ส่วนความน่าเกลียดของตุ๊กแก ก็น่าจะมาจากกการที่ไม่กล้ามองมันอย่างจริงจังเพราะความกลัว เลยยิ่งมโนไปได้อีกว่ามันน่าเกลียดมากกว่าตัวจริง สีฟ้าเรื่อๆ ผสมลายจุดน้ำตาล ถ้าเอาไปพิมพ์ลงบนผ้า คงเป็นลายสวยไม่น้อยเลยทีเดียว ความกลัวมาทุเลาลงก็เมื่อตอนโตมาแล้ว มาคิดได้ว่าเราตัวใหญ่กว่าตุ๊กแกตั้งเยอะ คงไม่มีทางจะปล่อยให้มากินตับกันได้ง่ายๆ และความเกลียดก็ทุเลาลงเมื่อมาเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับตุ๊กแกเมื่อครั้งไปเที่ยวเวียดนามยี่สิบที่แล้ว เพราะไปเห็นว่า ที่เกาะแคตบาในอ่าวฮาลอง เขาเอาตุ๊กแกมาตากแห้งมัดขายเป็นกองๆ พอมันแห้งๆ แล้วก็ดูไม่ต่างอะไรกับกองม้าน้ำตากแห้งข้างๆ กัน ซึ่งพอเห็นปุ๊บก็เลือดขึ้นหน้าปั๊บ มาฉุกใจคิดว่าทำไมจึงรู้สึกเสียใจและเป็นเดือดเป็นแค้นที่เห็นเขาจับม้าน้ำมาทำยาบำรุงกำลังได้ขนาดนั้น แล้วตุ๊กแกล่ะ ชะตากรรมก็ช่างไม่ต่างกันเลย จากนั้นมา ก็เลยเลิกเกลียดหรือกลัว ตอนนี้อยู่เมืองไทย มีบ้านกลางป่ากลางดงที่มีตุ๊กแกเป็นสัตว์ประจำบ้านชนิดหนึ่ง ไม่ต่างอะไรไปกับที่มีแมวและอึ่งอ่าง เพียงแต่สามชนิดนี้ไม่ปรองดองกันมากนัก ดูไปแล้วก็คล้ายๆ กับการ์ตูนทอมแอนด์เจอรรี่และเจ้าหมาบุช เพียงแต่สลับบทบาทนิดหน่อย ตุ๊กแกตัวใหญ่ จึงต้องกินอาหารชิ้นใหญ่ๆ เช่น แมงมันที่กรูกันออกมาตอนต้นฤดูฝนของเดือนพฤษภาคม เพราะน้ำฝนไหลลงไปท่วมรังในดิน ทำให้ลูกแมงมันบินออกมาเล่นกับแสงไฟและกลายเป็นอาหารให้แก่ตุ๊กแกหลายสิบตัว ที่รอจังหวะดักกินอาหารโอชะนี้ปีละหน จัดว่าเป็นบุฟเฟต์ธรรมชาติที่เอิกเกริกมาก ส่วนฤดูกาลอื่นๆ อาหารของตุ๊กแกก็มีทั้งแมลงอื่นๆตามแต่จะหาได้ จิ้งจก รวมทั้งกบและอึ่งอ่างที่หลงเข้ามาใกล้ๆ รัศมี อึ่งอ่างที่มาขออาศัยอยู่ในบ้าน […]